
ตลอดเส้นทางอาชีพอันยาวนาน Johnny Cash ได้สวมบทบาท "บุรุษในชุดดำ" ผู้ถ่ายทอดบทเพลงแห่งความทุกข์และการไถ่บาป ซึ่งสะท้อนชีวิตของผู้คนนับล้าน แต่ไม่มีผลงานชิ้นใดที่จะกลั่นกรองแก่นแท้ของตัวตนเขาได้มากเท่ากับบทเพลงสุดท้ายในชีวิต อย่างเพลง Hurt ไม่ใช่แค่การแสดงอันทรงพลังของเขา แต่เป็นการถ่ายทอดชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชนบนบทเพลง และสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ นี่คือเพลง cover ที่กลายเป็นผลงานสุดท้ายของเขา
จาก Industrial สู่ Country: จุดตัดอันเหลือเชื่อของเพลง Hurt
ท่ามกลางความแตกต่างสุดขั้ว การที่ Johnny Cash หยิบ Hurt มาถ่ายทอดใหม่ถือเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้มาก่อน
ต้นฉบับของ Hurt
Hurt ถูกแต่งและร้องโดย Trent Reznor แห่งวง Nine Inch Nails โดดเด่นด้วยบรรยากาศอึมครึมและซาวด์อินดัสเทรียลอันดิบกร้าว
ความร่วมมือกับ Rick Rubin
การเลือก Hurt มาทำใหม่ เกิดจากวิสัยทัศน์อันเฉียบคมของโปรดิวเซอร์ Rick Rubin ที่กล้าเชื่อมโลกดนตรีต่างขั้วเข้าด้วยกัน
ปฏิกิริยาของ Trent Reznor
ความกังวลของ Reznor เกิดจากความต่างทางดนตรีอย่างสิ้นเชิงระหว่าง Nine Inch Nails กับ Cash
การตัดสินใจครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างงานศิลปะที่ทั้งโลกต้องกล่าวถึง
การสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกและเบื้องหลังมิวสิกวิดีโอ
การสร้าง MV Hurt เต็มไปด้วยอุปสรรคและความกดดัน แต่สิ่งเหล่านี้กลับทำให้ผลงานยิ่งทรงพลังยิ่งขึ้น
ผู้กำกับที่รู้ทันทีว่า Hurt คือผลงานชีวิต
เมื่อเพลงนี้ถูกปล่อยออกมา มันได้ไปเข้าหูของผู้กำกับ Mark Romanek เขาหลงใหลในเพลงนี้อย่างมากถึงขั้นอ้อนวอน Rick Rubin เพื่อขอเป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ และเขาถึงกับเสนอที่จะถ่ายทำให้ฟรีเป็นกรณีพิเศษ
การถ่ายทำที่แข่งกับเวลา
ทีมงานต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการถ่ายทำ ซึ่งบีบให้พวกเขาต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดมากมาย
- สุขภาพที่ถดถอย: ภาวะร่างกายของ Cash ทำให้การถ่ายทำทุกฉากต้องระวังอย่างยิ่ง
- ความไม่สะดวกด้านสภาพอากาศ: อากาศหนาวเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำของ Cash
- ถ่ายทำต้องจบไว: ไม่มีเวลาให้แก้ตัวหรือถ่ายซ้ำมากนัก
เบื้องหลังสถานที่ถ่ายทำอันทรงพลัง
สถานที่ที่เคยรุ่งโรจน์กลับกลายเป็นความร้างไร้—ทำให้ MV เต็มไปด้วยอารมณ์จริง
Romanek กล่าวว่า “ผมต้องการเล่าความจริงของ Johnny ผ่านฉากนี้ เหมือนที่เขาเคยเล่าชีวิตผ่าน กีตาร์โปร่ง ของเขามาตลอด”
พิพิธภัณฑ์ที่ปิดตายได้กลายเป็นตัวแทนชีวิตของ Cash ที่ผ่านทั้งความสำเร็จและความสูญเสีย
พลังของภาพและสัญลักษณ์ใน MV Hurt
วิดีโอประกอบเพลง Hurt กลั่นสัญลักษณ์จากชีวิตจริงของ Cash จนกลายเป็นงานศิลปะที่สะเทือนใจ
สัญลักษณ์ที่ถูกออกแบบอย่างประณีต
- อาหารหรูวางเต็มโต๊ะ แต่มีเพียง Cash นั่งอยู่ในความเงียบ
- อดีตที่เคยรุ่งโรจน์ถูกนำมาเทียบกับสภาพปัจจุบันอันอ่อนล้า
- แผ่นเสียงแพลตตินัมที่แตกหักกลายเป็นสัญลักษณ์ของชื่อเสียงที่จากไป
- ภาพฝาเปียโนค่อย ๆ ทิ้งตัวลงคือการปิดม่านชีวิตของ Cash
เสียงสะเทือนถึงทั้งวงการเพลง
ผลงานชิ้นนี้สะเทือนใจคนในวงการเป็นอย่างมาก แม้แต่ Rick Rubin โปรดิวเซอร์ผู้ปลุกปั้นเพลงนี้ขึ้นมา ยังยอมรับว่า "เขาร้องไห้ในครั้งแรกที่ได้ดู" ขณะที่ปฏิกิริยาของ Trent Reznor ศิลปินเจ้าของเพลงต้นฉบับนั้นยิ่งตอกย้ำถึงพลังของมัน เขาเล่าถึงตอนที่ดูวิดีโอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ Zack de la Rocha (จากวง Rage Against the Machine) ว่า "เมื่อวิดีโอจบลง... บรรยากาศในสตูดิโอนั้นมีแต่ความเงียบงัน... จนผมเกือบจะร้องไห้"
จากเดิมที่ลังเล Reznor กลับซาบซึ้งอย่างที่สุด พร้อมประกาศว่า Hurt “กลายเป็นของ Cash ไปโดยสิ้นเชิง”
ชะตากรรมที่ตามมาอย่างน่าเศร้า
เหตุการณ์ต่อมาทำให้เพลง Hurt ถูกจดจำในฐานะ “บทสุดท้ายของชีวิต Cash” อย่างเลี่ยงไม่ได้
- June จากไปก่อน: ภรรยาคู่ชีวิตเสียชีวิตไม่นานหลังการถ่ายทำ
- ตำนานจากไป: Cash เสียชีวิตเพียง 7 เดือนหลังถ่ายทำ และถูกฝังข้างภรรยา
- ฉากหลังใน MV สูญสิ้น: House of Cash ถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก
เสียงสุดท้ายที่กลายเป็นตำนาน
"Hurt" ในเวอร์ชันของ Johnny Cash ไม่ใช่แค่เพลงคัฟเวอร์ธรรมดา แต่มันได้กลายเป็นคำประกาศสุดท้ายและบทสรุปชีวิตของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ความซื่อตรงและความเปราะบางที่เขาแสดงออกมาในวิดีโอนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นบทสุดท้ายที่สมบูรณ์แบบของ "บุรุษในชุดดำ" ผู้ซึ่งร้องเพลงเพื่อผู้ยากไร้และผู้ถูกลืมมาโดยตลอด
“Hurt” กลายเป็นบทส่งท้ายทางดนตรีที่ทรงพลังที่สุดเพลงหนึ่งในประวัติศาสตร์ และเป็นผลงานที่ทำให้โลกได้มองเห็นหัวใจของ Cash ใกล้ที่สุด
ที่มาอ้างอิงจากแหล่งข้อมูล
- How Johnny Cash Changed Music
- The Sad Story Behind Johnny Cash’s Hurt
- สารคดี | Johnny Cash "บุรุษชุดดำ ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่????????|คันทรี่ผู้ยิ่งใหญ่"[????????????????????????????????-????????]